การ เนรคุณคน ไม่เคยทำให้ใครกันแน่ได้ดิบได้ดี

[deam205]

ผู้ที่เข้ามาหาคุณนั้น มีหลายแบบ พวกเราต้องรู้จักแยกให้ออก

บ้างก็ความจริง บ้างก็แค่ละคร ให้ดูน่าสงส าร

บางคราวคุณยื่นมือเข้าไปช่วย แทนที่จะได้รับสิ่งที่ดีคืนมา เปลี่ยนเป็นความซ ว ย

แต่คุณเชื่อเหอะ ถ้าเขาไม่ทราบพระคุณ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ไม่รุ่งโรจน์หรอก

ชีวิตราวกับจะดีแต่ก็ไม่ ดี เหมือนจะราบรื่นแต่ก็ไม่ราบรื่น


ล้ ม ลุกคลุกคลานอยู่ที่เดิม ท้ายที่สุดก็พั ง ไม่เป็นท่า

โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร ทำสิ่งใด ไม่ต้องทวงบุญคุณ

เหมาะสมที่สุดเป็น เลิกคบ ออกไปให้ไกลจากชีวิตเขา

คนเราจะอยู่ตามลำพังคนเดียวตามลำพั ง ไม่ได้ จำต้องพึ่งพาอาศัยกัน

ทั้งในด้านกำลังกาย กำลังความคิด แล้วก็อื่นๆ

ถ้าหากได้รับชุบเลี้ยงจากผู้ใด ก็เรียกผู้นั้นว่า ผู้มีพระคุณหรือผู้มีบุญคุณณ

ใครช่วยเหลือให้อุปถัมภ์แก่เรา ก็ไม่ควรลืมพระคุณของคนนั้น


ผู้ไม่ลืมชุบเลี้ยงที่คนอื่นมีแก่ตน ย่อมเป็นผู้เจริญด้วย ลาภตำแหน่งสรเสริญ ความเป็นมิตร


แต่คนใดกันไม่สำนึกบุญคุณของผู้อื่น หรือดูถูกเหยียดหยามบุญคุณของผู้มีชุบเลี้ยงของตัวเอง

ผู้นั้นจะเป็นผู้ ต่ำ ต้ อ ย ทำความดีไม่ขึ้น เป็นคน อ า ภั พ

แม้จะพย าย ามขวนขวายอย่างไร ก็มักจะ ล้ ม เ ห ล ว ไม่เป็นท่าเหมือนเดิม

การลบหลู่ดูหมิ่นพระคุณของผู้มีบุญคุณ เขาเรียกว่า การ เ น รคุณ

การ เ น ร คุณเป็นตัว ก า ล กิ ณี จะคอยดึงให้คนเ น ร ระอุในต ก ต่ำ

ไม่มีช่องทาง ที่จะมีความสุขได้ในชีวิตได้เลย

เพราะไม่มีความกตัญญูกตเวที ไม่มีความเป็นพหูสูตรคุณคน

ควรคิดให้ได้เถิด เมื่อคิดได้แล้ว เปลี่ยนนิสัยตัวเอง ได้ชดใช้ตามสมควรแล้ว

ชีวิตก็จะเบาๆดีขึ้นเรื่อยๆตามสาเหตุต่างๆที่ต้องเป็น

รู้บุญคุณคนคนแล้วทดแทน นี่แหละ เครื่องหมายของคนดี
เนรคุณ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13590/