• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นต้นเหตุ ? รักษาได้อย่างไร ?

Started by fairya, January 06, 2023, 02:30:08 AM

Previous topic - Next topic

fairya

ตับมีปัญหา จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เพราะถ้าปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง แล้วก็โรคมะเร็งตับได้ด้วยเหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อเสียง กล่าวเน้นย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้ยังไงว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? แล้วก็ควรดูแลบำรุงเช่นไร..? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเสมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บสินค้า (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) แล้วก็ยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าเกิดร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด อย่างเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและก็เกลือแร่ไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารประเภทไขมัน และก็ถึงสารเริ่มต้นของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป อาหารและก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะ หรือถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องเผชิญปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นจากพันธุกรรมตั้งแต่เกิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับดังเช่นว่า
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานหนัก มีความเครียด
4.ชอบนอนมืดค่ำ ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมเยอะเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบกินอาหารดิบๆสุกๆ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.ร่วมเพศโดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางครั้งก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองสังเกตอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ดังเช่น มีอาการเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนล้า , มีปัญหาสำหรับการนอน , ท้องเฟ้อเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความอยากของกินลดน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นหากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่มีความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกทีความน่ากลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางด้านทฤษฎีถ้าเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเพิกเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะถ้าหากตับอักเสบซ้ำๆจนกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดเป็น การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเยอะขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงอาหารว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสชาติแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
ทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/อาทิตย์)
ขณะที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับสารเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้น้อยลงที่สุด
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าเกิดปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมคือแม้คิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำเป็นยาก ลองมองเทคนิคน่าสนใจ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องสำคัญ" ของกินที่เรารับเข้าไปในแต่ละวันก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้เหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากินอะไรลงไป.. และก็นี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยคุณประโยชน์ที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยในการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
ถึงแม้ชื่อจะไม่ชินหูใครหลายคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกแล้วก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งยังพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย รวมทั้งยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถปกป้องแล้วก็ลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่เอาชีวิตคนประเทศไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพที่แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอความเห็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ขอรับข้อเสนอแนะปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage รวมทั้ง Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเวลา