วิธี 7 ข้อช่วยปรับให้คุณเลิกเป็นคน ขี้เป็นห่วง

[Joe524]

หากคุณเป็นคนอีกคนหนึ่งที่ถูกใจ คิดมาก เพ้อเจ้อ ขี้กังวล กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง

จนถึงทำให้จะต้องคับแค้นใจอยู่เสมอๆพวกเรามีแนวทางมาแนะนำที่จะสามารถช่วยให้คุณลดความรู้สึกกลุ้มใจ คิดมาก หรือ ฟุ้งซ่านลงได้

1. ดูความคิดของตนเอง

ส่วนสำคัญที่สุดของแนวทางการทำเป็น การปล่อยให้ความคิดของคุณลอยผ่านไป

แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกฝนสมาธิแบบก้าวหน้าสติเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณ


หยุดหมกมุ่นกับความหลังได้ โดยให้คุณลองสังเกตการณ์ความคิดของตัวเอง


ดูว่าตนเองกำลังกังวลอยู่กับเรื่องอะไร แล้วก็ จะจัดการกับปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน

ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วพิจารณาความนึกคิดของตัวเองมอง คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไม่มีขอบเขตจริงๆ

รวมทั้งในเวลาที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแต่จะแย่ลงแค่นั้น แต่ว่าจิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

และ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีที่ว่างในการฟังสิ่งที่วิจิตรบรรจงยิ่งขึ้น

2. เขียนความคิดของตน

อีกวิธีนึง ที่จะสามารถช่วยหยุดความนึกคิดเพ้อเจ้อของคุณ ก็คือ การระบายให้กับคนที่มีมุมมองวิธีคิดแตกต่างกัน

ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้วิธีเขียนระบายความนึกคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้


เพราะ การเขียนทำให้พวกเราคิดอย่ างเป็นระบบมากยิ่งกว่าเดิม หากคุณเก็บความคิดพวกนั้นไว้แม้กระนั้นในหัว


นอกจากมันจะไปสุมกันจนถึงเป็นเทือกเขามันยังเป็นเหตุให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น

3. ระบุขณะสำหรับ "การหยุดใช้สมอง"

การกำหนดเวลา "หยุดใช้สมอง" ช่วยห้ามไม่ให้คุณหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากจนเกินไป

ดังเช่น การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลานอนหลับ

มีข้อเสนอว่าให้แบ่งเวลาไว้ประมาณ 20 นาทีต่อวัน สำหรับในการสะท้อนความคิดของตนเอง

ข้างในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตนเองวิตกกังวล ครุ่นคิดตรึกตรอง ฟุ้งซ่านได้สุดกำลังตามอยากได้ แล้วพอหมดเวลา

ก็ให้เปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นที่มีคุณประโยชน์กว่า ถ้าคุณเริ่มคิดมากนอกช่วงเวลาที่กำหนดไว้เมื่อใด

ก็ให้เตือนตนเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดเวลาที่กำหนดดียิ่งกว่า

4. เบี่ยงเบนความคิดของตนเอง

ฟังดูง่ายๆแต่ว่าที่จริงการจดจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมนี่มันย ากนะ

ลองออกกำลังกายหรือเล่นเกมดูเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์และร่างกาย

ผู้เชี่ยวชาญคนไม่ใช่น้อยก็เห็นด้วยกับวิธีการแบบนี้หมายถึงให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความพอใจของคุณ


ซึ่งควรเป็นธุระก ร ร มที่ใช้อีกทั้งร่างกาย ความนึกคิด แล้วก็ การร่วมเล่นกับคนอื่น เป็นต้นว่า เทนนิส หรือการไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงสักคน

5. โฟกัสที่สิ่งที่ทำเป็นในปัจจุบัน

อีกหนึ่งแนวทางแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือทำอย่ าไปจุดโฟกัสในสิ่งที่คุณต้องทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ หรือ

แม้กระทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง แต่ว่าให้พุ่งความพอใจไปในที่สิ่งที่สามารถทำเป็นในตอนนี้ก็เพียงพอ

ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กขนาดไหนก็ตาม แล้วก็ลงมือทำมันซะ แบบนี้ทุกครั้งที่เราเป็นห่วง

ถึงปัญหาในเรื่องใดๆพวกเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างเยอะขึ้นเรื่อยๆ

6. เคารพนับถือความเห็นของตนเอง

เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนไม่ยอมตกลงใจส่วนหนึ่งส่วนใดอาจเป็นเพราะคุณไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้อง

ควรศึกษาที่จะนับถือความเห็นของตนเองยิ่งคิดมากมากแค่ไหน คุณก็จะยิ่งลังเลในความนึกคิดของตัวเองมากเพียงแค่นั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่บกพร่องได้

คือเรื่องธรรดาที่จะหนักใจว่าคุณเลือกงานไม่ถูก สมรสกับคนที่ไม่ใช่สำหรับตนเอง หรือแม้กระทั้งขับรถกลับบ้านผิดทาง

แต่ข้อผิดพลาดก็มิได้ส่งผลให้เกิดหายนะเสมอไป แถมยังเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้รวมทั้งเติบโตขึ้นด้วย

คุณไม่ต้องวิตกกังวลกับความผิดพลาดเลย และ ให้เข้าใจไว้ว่าความนึกเห็นหรือวิชาความรู้ของ

คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบแล้วก็เป็นอิสระจากภายในอย่ างแท้จริง
ขี้กังวล 
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/
คำค้นหา : ฟุ้งซ่าน