🦖🛒✅การเจาะสำรวจดิน (Soil Investigation)📌 นับได้ว่ามีความสำคัญในงานการวางแผนโครงการก่อสร้าง🦖 สาธารณูปโภคต่าง ๆ🦖 ตั้งแต่การจัดซื้อที่ดินที่ตั้งโครงการ✨ งานออกแบบทั้งในขั้นต้น และในขั้นรายละเอียด (Detailed Design)🎯 ซึ่งในปัจจุบันงานเจาะสำรวจดินว่ามีความจำเป็นในงานออกแบบทั่วไป⚡ จะพบว่ามีข้อกำหนดรายละเอียด (Specification) งานเจาะสำรวจทั้งงานภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐก่อนการออกแบบ และก่อสร้างแทบทุกโครงการ📌 โดยเฉพาะภาครัฐที่ตระหนักถึงความถูกต้อง✅ ความปลอดภัยและความประหยัดในงานออกแบบ🥇 ประกอบกับได้มีการพัฒนากฎหมาย และองค์กรต่าง ๆ ควบคู่กันไป เช่น คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (กว.)🥇 สภาวิศวกร📢 สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยที่กระตุ้นให้มีการเจาะสำรวจดินมากขึ้น⚡ โดยรวมได้มีความตระหนักถึงความจำเป็นในการเจาะสำรวจดินก่อนออกแบบโครงการมากขึ้น ซึ่งเป็นการถูกต้องตามระบบสากล🥇 โดยเฉพาะประเทศตะวันตกที่กำหนดการเจาะสำรวจดินเป็นมาตรฐานมานานกว่า 50 ปี🛒 เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยในที่สุดก็ได้พัฒนามาถึงจุดนี้
(https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/449076078_962977508957017_1423359465646447545_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=127cfc&_nc_ohc=wmWuEDL6OKsQ7kNvgFywVrq&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=00_AYBzkwyzsuDN3jzMSehEjpzWSJPG93tMdCWD5ZoutCPnyg&oe=66A5A71E)
📢🌏👉การเจาะสำรวจที่สมบูรณ์ต้องมีความรู้และเข้าใจข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการออกแบบ🦖 วิธีการที่เหมาะสม📢 ใช้เครื่องมือ เครื่องจักรที่ถูกต้อง🌏 กำหนดปริมาณการเจาะสำรวจดินที่พอเหมาะ🛒 ใช้เทคนิคการปฏิบัติการตามมาตรฐานสากล🥇 ทดสอบค่าคงตัวของดินให้ครอบคลุมการออกแบบ🛒 จนกระทั่งในที่สุดจัดทำรายงานผลการเจาะสำรวจดินที่สมบูรณ์🥇 เพื่อนำเสนอแก่ผู้เกี่ยวข้องและผู้ออกแบบ🎯 งานเจาะสำรวจดิน (https://groups.google.com/g/comp.lang.clipper.visual-objects/c/UDgZP9PKu88)ทั้งหมดดูแล้วเป็นเรื่องละเอียดอ่อน📢 มีองค์ประกอบหลายอย่าง✅ โดยเฉพาะดินเป็นวัสดุธรรมชาติที่ไม่มีความสม่ำเสมอเหมือนเช่นวัสดุอุตสาหกรรม🦖 เป็นหน้าที่ของวิศวกรผู้เจาะสำรวจในการดูแลดำเนินการให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อการออกแบบที่ปลอดภัยและประหยัด📢
⚡⚡⚡ระยะห่างของหลุมเจาะ✨✅✅✅
📢🛒⚡หากยังไม่มีผังอาคารที่แน่นอนในพื้นที่โครงการก่อนเจาะสำรวจดิน🎯 และพื้นที่โครงการมีขนาดใหญ่📢 เพื่อความเหมาะสม📌อาจจะกำหนดหลุมเจาะในรูปแบบตาราง (Grid)🎯 มีระยะห่างที่เหมาะสมและเท่ากัน เช่น 20-40 เมตร✨ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเจาะหลุมที่ไม่มีอาคารก่อสร้าง🦖 ในขั้นนี้จึงควรลดค่าใช้จ่ายโดยการแทรกทำการเจาะหยั่ง (Probing, Sounding) ร่วมด้วย🎯 ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้👉 เนื่องจากการเจาะหยั่งมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า⚡ แต่ยังได้ข้อมูลโดยรวมของพื้นที่บริเวณ🥇 อนึ่งถ้าในพื้นที่บริเวณโครงการ มีส่วนที่ไม่ปกติ เช่น บ่อน้ำ (ที่จะต้องถม) แนวทางน้ำไหล คูน้ำ คลองเก่า จะต้องกำหนดหลุมเจาะใกล้ตำแหน่งดังกล่าวด้วย🎯 เพื่อให้ได้ข้อมูลพอเพียง📢
🌏🎯✅ถ้าเป็นไปได้ เมื่อไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ เช่น อาคารเก่า ไม่มีถนนเข้า เป็นบ่อน้ำขัง🛒 จะต้องกำหนดหลุมเจาะใกล้กับตำแหน่งฐานรากอาคารที่จะก่อสร้าง✅ ซึ่งจะมีความสำคัญมากหากชั้นดินในโครงการไม่สม่ำเสมอ📢 จะต้องทำระดับ (Level) อ้างอิงปากหลุมเจาะให้แน่นอน📢 ในกรณีที่มีการสำรวจผังบริเวณโครงการและทำหมุดอ้างอิง (Reference Benchmark) ไว้ในโครงการ✅ หรือถ้าเป็นโครงการเล็กที่ไม่ได้ทำการสำรวจพื้นที่โครงการ ก็อาจจะอ้างอิงระดับกับโครงสร้างถาวรภายในโครงการ หรือข้างเคียง เช่น ผิวคอนกรีต หัวตอม่อสะพาน ผิวถนน เป็นต้น🛒 และจะต้องบันทึกในหลุมเจาะว่า เจาะจากผิวดินเดิม หรือผิวดินถม ฯลฯ⚡ ซึ่งข้อมูลระดับทั้งหมดจะทำให้สามารถกำหนดความลึกฐานแผ่หรือความยาวเสาเข็มได้แม่นยำ📢 เมื่อมีการปรับพื้นบริเวณโครงการ เช่น หลังการตัด (Cut) หรือถม (Fill)✨